สตรอว์เบอร์รี (อังกฤษ: strawberry) เป็นสกุลไม้ดอกในวงศ์กุหลาบ ผลสามารถรับประทานได้ ในอดีตปลูกเป็นพืชคลุมดินให้กับต้นไม้ปลูกเลี้ยงอื่น ซึ่งอาจเป็นที่มาของชื่อก็เป็นได้[2] มีมากกว่า 20 สปีชีส์ และมีลูกผสมมากมาย แต่สตรอว์เบอร์รีที่นิยมปลูกมากในปัจจุบันก็คือสตรอว์เบอร์รีสวน (Fragaria × ananassa) ผลของสตรอว์เบอร์รีมีรสชาติหลากหลายขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ มีตั้งแต่รสหวานจนถึงเปรี้ยว สตรอว์เบอร์รีเป็นผลไม้ทางการค้าที่สำคัญ มีปลูกกันเป็นวงกว้างหลายสภาพอากาศทั่วโลก
1. สตรอเบอร์รี่อุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ
มีส่วนช่วยในการชะลอวัย
2. ช่วยในการเสริมสร้างคอลลาเจน
จึงช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยได้เป็นอย่างดี
3. ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้แก่ร่างกาย
4. มีส่วนช่วยบำรุงประสาทและสมอง
5. ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
6. ช่วยป้องกันการเกิดโรคโลหิตจาง
7. ช่วยเพิ่มปริมาณไขมันชนิดดี
(HDL) ซึ่งช่วยทำให้หลอดเลือดสะอาด
ปราศจากคราบไขมัน
8. ช่วยยับยั้งสารก่อมะเร็งอย่างไนโตรซามีน
(Nitrosamines) ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดโรคมะเร็งลำไส้
9. ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
10. ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกได้
11. ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดอุดตัน
12. ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหัวใจให้แข็งแรงและป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
13. สตรอเบอร์รี่อุดมไปด้วยซูเปอร์ไฟเบอร์เพกทิน
ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดระดับคอเลสเตอรอลได้
14. มีส่วนช่วยบำรุงโลหิต
15. ช่วยลดความดันโลหิต
16. มีส่วนช่วยในการบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
17. ช่วยป้องกันไม่ให้ทารกในครรภ์สมองพิการได้
(กรดโฟลิก)
18. ช่วยบำรุงและรักษาสายตา
ช่วยปรับสมดุลของนัยน์ตาให้เป็นปกติ และป้องกันโรคต้อกระจก โรคตาบอดตอนกลางคืน
การรับประทานสตรอเบอร์รี่เป็นประจำจึงช่วยลดความเสื่อมของจอประสาทตาได้ถึง 50%
19. การดื่มน้ำสตรอเบอร์รี่จะช่วยบำรุงร่างกายหลังฟื้นไข้
20. ช่วยป้องกันการเกิดโรคหวัดและภูมิแพ้
21. ช่วยป้องกันการเกิดโรคเลือดออกตามไรฟันได้เป็นอย่างดี
22. ช่วยทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ
23. เป็นยาระบายอ่อน ๆ
24. ช่วยแก้อาการท้องร่วง
(ด้วยการใช้เหล้าไวน์ 1 ถ้วยตวง
ใส่รากและใบสตรอเบอร์รี่ตากแห้ง 1/2 ถ้วยตวง
นำมาต้มน้ำให้เดือดแล้วกรองเอาแต่น้ำดื่มก่อนอาหารทุกมื้อ)
25. ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ
ด้วยการรับประทานผลสดครั้งละ 5 ผล
26. มีส่วนช่วยรักษาโรคนิ่วในไต
27. ช่วยรักษาโรคทางเดินปัสสาวะ
(ด้วยการใช้เหล้าไวน์ 1 ถ้วยตวง
ใส่รากและใบสตรอเบอร์รี่ตากแห้ง 1/2 ถ้วยตวง
นำมาต้มน้ำให้เดือดแล้วกรองเอาแต่น้ำดื่มก่อนอาหารทุกมื้อ)
28. ช่วยแก้ปัญหาประจำเดือนมาไม่เป็นปกติด้วยการใช้ใบและราก
(โดยการใช้เหล้าไวน์ 1 ถ้วยตวง
ใส่รากและใบสตรอเบอร์รี่ตากแห้ง 1/2 ถ้วยตวง
นำมาต้มน้ำให้เดือดแล้วกรองเอาแต่น้ำดื่มก่อนอาหารทุกมื้อ) ตากแห้ง
นำมาชงกับน้ำเดือด แล้วดื่มแทนชา และใช้รากสตรอเบอร์รี่ 2 ช้อนโต๊ะต่อน้ำเดือด
1 กาขนาดกลาง
29. ช่วยบรรเทาอาการของโรคตับอักเสบ
30. ช่วยป้องกันการเกิดโรคข้ออักเสบ
31. ช่วยป้องกันการเกิดโรคเหน็บชา
32. ช่วยป้องกันโรคเกาต์
33. ช่วยแก้อาการเจ็บคอ
รักษาแผลในช่องปาก (ด้วยการใช้ใบสดสตรอเบอร์รี่นำมาแช่น้ำทิ้งไว้ค้างคืน
แล้วนำน้ำมาใช้กลั้วคอ)
34. ช่วยรักษาสุขภาพเหงือกและฟันให้แข็งแรง
(ด้วยการใช้ใบสดสตรอเบอร์รี่นำมาแช่น้ำทิ้งไว้ค้างคืน แล้วนำน้ำมาใช้กลั้วคอ)
35. ใบสดนำมาโขลกแล้วนำไปประคบตามร่างกาย
ช่วยลดอาการอักเสบบวมช้ำได้เป็นอย่างดี
36. เป็นผลไม้ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ต้องการจะลดน้ำหนักและความอ้วน
เพราะมีพลังงานต่ำ
37. ช่วยในการดีท็อกซ์สารพิษออกจากร่างกาย
ช่วยทำให้ร่างกายมีสุขภาพดี
38. ช่วยระงับกลิ่นปากได้ดี
ทำให้ลมหายใจสดชื่น (ใช้ใบสดนำมาแช่น้ำทิ้งไว้ค้างคืน แล้วนำมาอมบ้วนปาก)
39. ใบสตรอเบอร์รี่นำมาซ้อนกันหลาย
ๆ ใบ ใช้ประคบแก้รอยช้ำบวมตามร่างกาย
40. ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส
ด้วยการนำผลสตรอเบอร์รี่สดมาฝานบาง ๆ วางให้ทั่วบริเวณใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
41. ใช้ทำความสะอาดผิวหน้า
ด้วยการใช้สตรอเบอร์รี่ประมาณ 3 ผลผสมกับน้ำมะนาว
แล้วนำมานวดทาบริเวณใบหน้าแล้วล้างออก ซึ่งจะช่วยทำความสะอาด ปรับสภาพผิว
และลดการอุดตันของรูขุมขนได้เป็นอย่างดี
42. ช่วยทำให้ฟันขาวสะอาด
เงางาม ด้วยการใช้ใบสตรอเบอร์รี่และรากที่ตากแห้งมาใส่โถปั่นจนเป็นผง
แล้วนำมาใช้แทนยาสีฟัน
43. มีการนำไปแปรรูปอย่างหลากหลาย
ไม่ว่าจะเป็นสตรอเบอร์รี่เชื่อม น้ำสตรอเบอร์รี่ แยมสตรอเบอร์รี่ ไวน์สตรอเบอร์รี่
สตรอเบอร์รี่อบแห้ง เค้กสตรอเบอร์รี่ โยเกิร์ตสตรอเบอร์รี่ เป็นต้น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น